More

    ยลโฉมจริง!! 2022 Lexus NX บุกไทยด้วยพลังเสียบปลั๊ก 304 แรงม้า

    ในที่สุด Lexus ใช้เวทีงาน Motor Expo 2021 เปิดตัวเอสยูวีเจเนอเรชัใหม่ที่ออกมาสู้กับคู่แข่งตัวเอ้ทั้งเยอรมันและอังกฤษกับ Lexus NX เจนใหม่

    Lexus NX เจเนอเรชันที่สอง นี้ นำเสนอเอกลักษณ์การขับขี่ที่มีลักษณะเฉพาะภายใต้แนวคิด “Lexus Driving Signature” ยกระดับสมรรถนะการขับขี่ ออกแบบเทคโนโลยีขั้นสูง สำหรับสเปกไทยที่จะเข้าจำหน่ายนั้นมีขุมพลังสองรูปแบบทั้ง เวอร์ชั่น HEV Hybrid และเสียบปลั๊ก PHEV Plug-In รุ่นแรกหลังการเปิดตัว Lexus UX 300e รถไฟฟ้ารุ่นแรก กับหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์ตั้งแต่กระจังหน้าแบบ Spindle Grill ปรับดีไซน์พร้อมไฟหน้า LED แบบใหม่ 3-eye ดีไซน์เรียบหรู

    พร้อมไฟเลี้ยวแบบ Sequential Turning พร้อมไฟ DRL แบบ “Nike-swoosh” รูปตัว L ที่แยกจากกัน ด้านท้ายใหม่ด้วยไฟท้าย LED แบบลากยาวตลอด เชื่อมด้วยแถบโครเมี่ยมยาวโลโก้ตัวอักษร Lexus แทนโลโก้ทรงกลม ล้ออัลลอยลายขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/60 R18 และ ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 235/60 R18 ตัวรถ จากแพลตฟอร์ม TNGA-K มีมิติตัวรถที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเริ่มที่ความยาว 4,660 มม. ความกว้าง 1,865 มม. ความสูง 1,640 มม. และฐานล้อ 2,690 มม.

    ใหม่หมดด้วยแผงคอนโซลหน้า มาตรวัดดิจิทัลแบบ TFT 7 นิ้ว กับจอสัมผัสขนาดใหญ่ 14 นิ้ว แถมอยู่ในตำแหน่งเดียวกันสามารถมองเห็นชัดเจนขึ้นมาพร้อมกับอินเตอร์เฟสแบบใหม่และ WIRELESS APPLE CARPLAY ให้การตอบสนองได้อย่างแม่นยำพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นสามก้านที่สวยและเบาะนั่งหนังแท้สไตล์ปสอร์ต หลังคาพาโนรามิกขนาดใหญ่ จอแสดงข้อมูลเหนือคอนโซลกลาง 10 นิ้ว Head-up Display ที่ชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย พร้อมไฟส่องภายใน แบบ thematic ambient illumination มีทั้งหมด 50 สี 14 แบบ กระจกมองหลังแบบดิจิทัล ให้ภาพที่มีความคมชัดและสีที่เป็นธรรมชาติสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนแม้ในยามค่ำคืน

    สเปกไทยจำหน่าย 2 ขนาด เริ่มที่รุ่น NX350h มาพร้อมพลังเบนซิน Hybrid 2.5 ลิตร A25A-FXS 187 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 239 นิวตันเมตร ที่ 4,300-4,500 รอบ/นาทีมาพร้อมกับ มอเตอร์ไฟฟ้าชนิด Permanent Magnet Synchronous Motor 182 แรงม้า แรงบิด 270 นิวตันเมตร กับ แบตเตอรี่ไฮบริดชนิดลิเธียมไอออน ขนาด 1.1 kWh เมื่อทำงานร่วมกันได้แรงม้ารวม 240 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหน้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ ECVT

    และล่าสุดในรุ่น NX450h AWD Plug-in hybrid กับพลังเสียบปลั๊ก PHEV ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน  2.5 ลิตร รหัส A25A-FXS และ ให้กำลังถึง 182 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 227 นิวตันเมตร ที่ 3,200-3,700 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2ตัว 5NM 182 แรงม้า แรงบิด 270 นิวตันเมตร และรุ่น 4NM 54 แรงม้า แรงบิด 121 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันให้แรงม้ารวม 304 แรงม้า

    ขนาดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุสูง 18.1 kWh จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ ECVT พร้อม Sequential Shift ขับเคลื่อน 4 ล้อ e-Four มอเตอร์ไฟฟ้าแบบติดตั้งด้านหลัง กระจายแรงบิดระหว่างล้อคู่หน้าและล้อคู่หลัง ได้ตั้งแต่ 100 : 0 ถึง 20 : 80 สามรถวิ่งในโหมด EV ไฟฟ้าล้วน ได้ไกลกว่า 87  กิโลเมตร และสามารถทำความเร็วสูงสุดในโหมดไฟฟ้าได้ถึง 135 กิโลเมตร/ชั่วโมง

    พร้อมโหมดการขับขี่ 4 โหมด ได้แก่ 1. EV (Electronic Vehicle) ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน 2. EV/HEV แบบสลับอัตโนมัติ ระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ไฮบริด 3. HEV (Hybrid Electric Vehicle) ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ไฮบริด 4. โหมดชาร์จแบตเตอรี่ เมื่อแบตเตอรี่ลดลงต่ำกว่าระดับที่กำหนด โหมดนี้จะช่วยให้คุณสามารถชาร์จแบตเตอรี่ในขณะที่ขับรถไปด้วยได้ โดยระบบจะดึงกระแสไฟจากเครื่องยนต์มาชาร์จเข้าแบตเตอรี่ไฟฟ้า จึงใช้งานโหมด EV ได้โดยไม่จำเป็นต้องเสียบปลั๊กชาร์จ

    มาพร้อมระบบความปลอดภัย เหนือระดับ Lexus Safety System Plus…มาตรฐานความปลอดภัยระดับโลกไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ LEXUS TEAMMATE ADVANCE PARK, กลอนประตูอิเล็กทรอนิกส์ E-LATCH ที่จะช่วยให้คุณไม่ต้องออกแรงดึง ระบบไฟฟ้าดังกล่าวจะช่วยให้ประตูรถทำงานได้อย่างนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น ,ระบบป้องกันก่อนการชน Pre-collision Safety System, ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัจฉริยะ Adaptive High-beam System (AHS) , ระบบช่วยรักษาช่องทางวิ่ง Lane Tracing Assist (LTA) , ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน Dynamic Radar Cruise Control

    Lexus NX ใหม่ทุกคันมาพร้อมกับการรับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง นอกจากนี้พิเศษสุดสำหรับทุกท่านที่จอง NX 450h+ รับฟรี Lexus WallBox มูลค่า 80,000บาท พร้อมบริการติดตั้งฟรีถึงบ้าน โดยมีให้หลือกถึง 11 สี ได้แก่ White Nova Glass Flake**, Sonic Quartz*, Sonic Titanium, Sonic Chrome, Black, Graphite Black Glass Flake, Madder Red, Blazing Carnelian Contrast Layering, Terrane Khaki Mica Metallic, Heat Blue Contrast Layering** และ Celestial Blue Glass Flake โดยเลือกเป็นเจ้าของ ดังนี้

    รุ่น NX 350h

    • รุ่น Luxury 3,240,000 บาท
    • รุ่น Grand Luxury 3,390,000 บาท

    รุ่น NX 450h+

    • รุ่น Grand Luxury 3,590,000 บาท
    • รุ่น Premium 3,870,000 บาท
    • รุ่น F SPORT 4,320,000 บาท

    * สำหรับเกรด Luxury, Grand Luxury และ Premium เท่านั้น ** สำหรับเกรด F SPORT เท่านั้น

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts