More

    NIO ET7 2021 คู่แข่งตัวฉกาจของ Tesla Model S 

    เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว Nio ET7 2021 ใหม่ รถยนต์ซีดานไฟฟ้าสัญชาติจีนคู่แข่ง Tesla Model S 

    Nio ET7 ใหม่ มาพร้อมตัวถังขนาดความยาว 5,098 มม. (เทียบกับ Tesla Model S ที่มีความยาว 4,980 มม.) ใกล้เคียงกับรถยนต์หรูขนาดกลางอย่าง BMW 5 Series และ Mercedes-Benz E-Class

    มาพร้อมฟีเจอร์ล้ำๆ เช่น ไฟหน้า Dual Beam LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน, ไฟท้ายแบบ Heartbeat Taillight แบบสามมิติ, กุญแจ UWB Digital Key, กระจกหน้าต่างแบบไร้กรอบ, ที่เปิดประตูแบบแนบไปกับตัวถัง พร้อมไฟส่องสว่าง LED และบานพับประตูไฟฟ้า E-latch ที่สามารถปิดประตูได้เองเพียงแค่ดึงเบาๆ เป็นต้น

    ภายในห้องโดยสารชูจุดขายด้วยความกว้างสบายเปรียบได้กับห้องนั่งเล่น โดดเด่นด้วยหลังคาแบบ All Glass Roof ขนาดใหญ่ถึง 1.9 ตารางเมตร ตกแต่งแผงคอนโซลด้วยวัสดุที่เรียกว่า Karuun ซึ่งทำมาจากหวายจำนวนทั้งหมด 14 ชิ้น ให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมีช่องแอร์ Invisible Smart Air Vents ที่ซ่อนตัวไปกับแผงคอนโซลทั้งด้านหน้าและหลัง ให้สัมผัสอากาศที่เป็นธรรมชาติมากกว่าช่องแอร์แบบทั่วไป

    นอกจากนี้ Nio ET7 ยังมาพร้อมเซ็นเซอร์ LiDAR ให้องศาในการตรวจจับ 120 องศา ได้เป็นระยะทางไกลถึง 500 เมตร เพื่อตรวจจับวัตถุต่างๆ ด้านหน้าตัวรถได้อย่างแม่นยำ โดยจะทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์รอบคันอีกกว่า 33 จุด เพื่อให้ระบบขับขี่อัตโนมัติและระบบความปลอดภัยต่างๆ เป็นไปอย่างสมบูรณ์

    ระบบขับขี่อัตโนมัติของ ET7 ยังทำงานด้วยกล้องความละเอียด 8 ล้านเมกะพิกเซล เทียบกับกล้องของเทสล่าที่มีความละเอียด 1.2 ล้านเมกะพิกเซล เสริมด้วยหน่วยประมวลผลจาก Nvidia ที่ทำงานเร็วกว่าเทสล่าถึง 7 เท่าอีกด้วย

    หากเลือกติดตั้งด้วยแบตเตอรี่ขนาด 70 kWh จะสามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางมากกว่า 500 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) ส่วนแบตเตอรี่ขนาด 100 kWh จะขับขี่ได้เป็นระยะทางมากกว่า 700 กิโลเมตร หรือถ้ายังไม่ไกลพอแล้วล่ะก็ แบตเตอรี่ขนาด 150 kWh จะช่วยให้ ET7 ขับขี่ได้เป็นระยะทางมากกว่า 1,000 กิโลเมตรเลยทีเดียว

    Nio ET7 ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัว ซึ่งมีกำลังสูงสุด 180 kW (241 hp) สำหรับขับเคลื่อนล้อคู่หน้า และ 300 kW (402 hp) สำหรับล้อคู่หลัง จึงทำให้รถคันนี้เป็นรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อ โดย Nio ET7 ถูกระบุว่ามีกำลังรวมสูงสุดอยู่ที่ 650 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 850 นิวตัน-เมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.9 วินาทีเท่านั้น

    เพื่อหยุดยั้งความแรงระดับนั้น Nio จึงได้ติดตั้งระบบเบรกด้านหน้าแบบ 4-pot จาก Brembo ซึ่งสามารถชะลอจากความเร็ว 100 กม./ชม. จนถึงจุดหยุดนิ่งด้วยระยะทางเพียง 33.5 เมตรเท่านั้น อีกทั้งยังติดตั้งช่วงล่างถุงลม Smart Air Suspension พร้อมระบบควบคุมการทรงตัว Continuous Damping Control มาให้ด้วย

    ไม่เพียงเท่านี้ Nio ยังถูกระหว่างการพัฒนาระบบสลับแบตเตอรี่ที่เร็วที่สุดในโลกเรียกว่า Power Swap Station 2.0 ช่วยให้สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ในเวลาไม่ถึง 3 นาที โดยไม่ต้องอาศัยการควบคุมจากมนุษย์เลย ช่วยให้เจ้าของรถหมดห่วงเรื่องระยะทางขับขี่ได้อย่างปลิดทิ้ง (แม้ว่าระยะทางขับขี่ 500 กิโลเมตรในรุ่นเริ่มต้นก็ถือว่ามากเพียงพอแล้วก็ตาม)

    ราคาจำหน่ายของ Nio ET7 เริ่มต้นที่ 378,000 หยวน หรือประมาณ 1.8 ล้านบาท โดยเป็นราคาไม่รวมแบตเตอรี่ แต่สามารถใช้บริการเช่าแบตเตอรี่ระยะยาวได้ หรือหากเลือกเป็นเจ้าของแบตเตอรี่เองจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 448,000 หยวน หรือประมาณ 2.09 ล้านบาทเท่านั้น


    บทความอื่นๆที่น่าสนใจ : 

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts